เหรียญกษาปณ์คุชชาน แห่งราชวงศ์คุชชาน

เหรียญกษาปณ์คุชชาน แห่งราชวงศ์คุชชาน
เหรียญกษาปณ์คุชชาน แห่งราชวงศ์คุชชานเหรียญกษาปณ์คุชชาน แห่งราชวงศ์คุชชาน
รหัสสินค้า SKU-00275
หมวดหมู่ เหรียญหล่อเก่า ,ใหม่
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 21 ส.ค. 2560
อัพเดทล่าสุด 14 เม.ย. 2564
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
 เหรียญกษาปณ์คุชชาน แห่งราชวงศ์คุชชาน (Kushan) ปี พ.ศ. ๗๐๘ (ต้น ค.ศ. ๑๖๕ ) เนื้อทองแดง รูปพระพุทธรูปยืนปางอภัย ศิลปะ คันทาระ น้ำหนักประมาณ ๑๖.๔๒ กรัม เส้นผ่าศูนยกลาง ๒๕ มม.ด้านหลังอีกขระ SACA MANO BOYDO เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่โบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงการสร้างพระพุทธรูปครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นในยุคสมัยของพระเจ้าขะนิสกะ ราชวงศ์คุชชานแห่งอินเดียเหนือ จะสังเกตได้ว่า แม้เหรียญนี้จะเป็นเหรียญทองแดง แต่ก็ยังมองเห็นทองคำประปราย เป็นหย่อมๆ ปนอยู่ในโลหะ ทองแดงเช่นกัน แสดงว่ามีทองคำผสมอยู่เยอะนับเป็นอีกหนึ่งเหรียญโบราณ ที่ควรค่าแก่การศึกษา และสะสม เป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยอายุความเก่าผ่านมาเป็นพันๆปี บ่งบอกถึงวัฒนธรรม อันยาวนานของมนุษย์ชาติ ที่สั่งสมกันมา น่าเก็บน่าใช้อีกละคราฟ *********************************************************************************************************************************** เมื่อต้นพุทธศักราช พ.ศ. ๗๐๘ (ต้น ค.ศ. ๑๖๕ ก่อนคริสต์ศักราช) ชนเผ่าเร่ร่อน ตามชื่อเรียกภาษาจีนว่า ยูชี (Yueh-chi)ได้อพยพออกจากถิ่นเดิม ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เนื่องจากถูกพวก Turkic-Mongol Hsiug-nu ขับไล่ จำต้องเคลื่อนตัวเข้ามาทางตะวันตกในดินแดน Oxus และได้ตั้งหลักปักฐานในแคว้น แบคเตรีย (Bactria) หลังจากได้พำนักพักพิงอยู่นานร่วมศตวรรษ เจ้านายตระกูลสาย คุชชาน (Kushan) ซึ่งเป็นสายย่อยของยูชิเป็นผู้นำ แยกตัวออกมาและนำทัพเข้ารุกรานเขตแดนของชนเผ่า พาร์เทีย (Parthia) ซึ่งมีดินแดนอยู่ติดชายขอบของอาฟกานิสถาน จากนั้นได้เข้ายึดครองถึงใจกลางของอาฟกานิสถานแค้วนคันทาระ และที่ราบลุ่ม สะเวท (Swat) จากนั้นค่อยๆ รุกคืบเข้ายึดครองครอบคลุมดินแดนทั้งหมดทั่วทั้งภาคเหนือของอินเดีย กองทัพคุชชานยังได้รุกคืบเข้ายึดครองลึกเข้ามาถึงกรุงพาราณสี รัฐพิหาร ทิศตะวันออกถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคารัฐเบงกอล ในขณะเดียวกัน ด้านทิศตะวันตกครอบครองดินแดนถึงลุ่มน้ำสินธุ ราชวงศ์คุชชานได้สร้างอาณาจักรรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ ครอบครองดินแดนอินเดียเหนือนานร่วมศตวรรษ โดยที่อาณาจักรของคุชชาน ประกอบด้วยชนเผ่าหลากหลายวัฒนธรรม เหรียญกษาปณ์ยุคแรกๆ ของคุชชาน ด้านหน้ามีอักขระกรีกและมีคำแปลด้านหลังเป็นภาษาท้องถิ่น อักขระ คารอสที่ (Kharosthi)ด้านหลังของเหรียญ หลังจากที่ พระเจ้าขะนิสกะที่หนึ่ง (Kanishka I) ได้ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระเจ้าวิมา กัดฟิสส์ พระองค์ได้ปรับปรุงภาษากรีก ด้วยการเพิ่มอักขระของท้องถิ่นบางตัวเพื่อปรับให้เข้ากับสำเนียงและภาษาถิ่น ในขณะเดียวกันก็ยอมรับและปรับตัวเข้ากับลัทธิความเชื่อของเทพเจ้าต่างๆ ของวัฒนธรรมอินเดีย เปอร์เชีย และเอเชียกลาง ซึมซับผสมกลมกลืนระหว่างความเชื่อตะวันตกและความเชื่อตะวันออกเข้าด้วยกัน ดังปรากฏบนเหรียญกษาปณ์ทั้งทองคำและทองแดง พระเจ้ากูจูลา กัดฟีสส์ (Kujula Kadphises) ปฐมกษัตริย์ของคุชชานได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ เงิน ทองแดง ด้านหลังเป็นรูปเทพเจ้ากรีก พระเจ้าวิมา ทักตู (Wima Taktu) ผู้สืบราชสมบัติต่อมาก็ผลิตเหรียญกษาปณ์ด้วยเงินและทองแดงเช่นเดิม พอมาถึงรัชสมัย พระเจ้าวิมา กัดฟิสส์ (Wima Kadphises) ผู้สืบราชวงศ์ต่อจากพระเจ้าวิมา ทักตู ได้ขยายดินแดนออกไปทางเหนือ ทำให้อาณาจักรกว้างใหญ่ขึ้น จึงเกิดความมั่งคั่ง เพราะสามารถควบคุมเส้นทางการค้าที่สำคัญคือเส้นทางสายไหม ซึ่งพ่อค้าต่างแดน โดยเฉพาะอาณาจักรโรมันชึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยจากอินเดีย และนิยมซื้อขายสินค้าด้วยเหรียญกษาปณ์ทองคำของชาวโรมัน Aurei เหรียญทองคำเหล่านี้ เมื่อได้มาจึงถูกหลอมและผลิตขึ้นใหม่ตามรูปแบบของคุชชาน ถือได้ว่าพระเจ้าวิมา กัดฟิสส์เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ก่อให้เกิดการผลิต และใช้เหรียญกษาปณ์ทองคำหมุนเวียนอย่างแพร่หลายภายในดินแดนอินเดียอย่างเป็นล่ำเป็นสัน (ก่อนหน้านั้น พระเจ้าเมนันเดอร์ที่หนึ่ง Menander I พระยามิริน ก็ได้เคยผลิตเหรียญกษาปณ์ทองคำในแผ่นดินอินเดีย แต่จำนวนน้อยมากเพื่อเฉลิมฉลองเป็นกรณีย์พิเศษเท่านั้น) พระเจ้าวิมา กัดฟิสส์ทรงนับถือพระศิวะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าของอินเดีย ดังปรากฏด้านหลังของเหรียญ พระศิวะยืนถือสามง่ามและวัวนันทิ พระเจ้าขะนิสกะ ที่หนึ่ง (Kanishka I) ได้ครองราชสืบต่อมา พระองค์ทรงยึดถือ และปฏิบัติเช่นเดียวกับกษัตริย์คุชชานพระองค์ก่อน ทรงผลิตเหรียญกษาปณ์ ทั้งทองคำและทองแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปพระพุทธเจ้าทำด้วยทองคำและทองแดง เหรียญทองคำมีสองขนาด คือขนาดใหญ่ (Dinar) น้ำหนักไม่เกิน ๘ กรัม และขนาดเล็ก (๑/๔ Dinar) น้ำหนักไม่เกิน ๒ กรัม ทั้งสองขนาดเป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนมีอักขระภาษาอินโด-กรีก BODDO(พระพุทธเจ้า) ส่วนเหรียญทองแดงมีทั้งรูปพระพุทธเจ้าประทับยืนและประทับนั่งขัดสมาธิ มีอักขระภาษาอินโด-กรีก SAKAMANO BODDO(ศากยะมุนี พุทธเจ้า) หรือ METRAGO (ไมตรียะ /พระศรีอาริยะเมตไตรย์) เหรียญพระพุทธเจ้าเหล่านี้เป็นหลักฐานทางโบราณคดี ยืนยันการสร้างพระพุทธรูปได้เกิดขึ้้นในยุคนี้ เชื่อกันว่าพระเจ้าขะนิสกะที่หนึ่งทรงให้ผลิตขึ้นเป็นกรณีย์พิเศษ (จึงมีจำนวนน้อยมาก) เพื่อเป็นการฉลองพิธีสังคายนาพระไตรปิดก ที่ Kanish Vihar เมืองแคชเมียร์และเป็นการเริ่มต้นนิกายมหายาน (Mahayana Buddhism) นอกจากพุทธศาสนา พระเจ้าขะนิสกะที่หนึ่งก็ให้ความสำคัญในการนับถือศาสนาและลัทธิอื่นๆ ที่ประชาชนในอาณาจักร์เคารพนับถือ พระองค์ทรงผลิตเหรียญมีรูปเคารพของเทพเจ้าอื่นๆ เหล่านั้นจำนวนมากด้วย พระเจ้าฮูวิชกะ (Huvishka) ได้ครองราชสืบต่อจากพระเจ้าขะนิสกะที่หนึ่ง ได้ขยายอาณาเขตกว้างไกลออกไปอีกมาก โดยที่พระองค์มีแนวคิดและแนวทางการปกครอง เช่นเดียวกันกับกษัตริย์องค์ก่อนๆ เหรียญกษาปณ์ของพระองค์จึงมีภาพเทพเจ้าหลากหลาย มีการผลิตเหรียญกษาปณ์ทั้งทองคำ และทองแดงออกมาใช้หมุนเวียนจำนวนมาก มากกว่าทุกรัชกาลก่อนหน้านั้น ทำให้มีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนอยู่ในอาณาจักรมาก กษัตริย์องค์ต่อๆ มาจึงไม่มีความจำเป็นต้องผลิตเหรียญกษาปณ์ออกมาเพิ่ม พระเจ้าวาสุ เดวะ ที่หนึ่ง (Vasu Deva I) ผู้สืบราชอาณาจักรต่อจากพระเจ้าฮูวิชกะ ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ทองคำ และทองแดงจำนวนน้อยมาก ล่วงมาถึงรัชกาลของ พระเจ้าขะนิสกะ ที่สอง (Kanishka II)ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์ทั้งทองคำและทองแดง น้อยมากเช่นกัน ในรัชการนี้อาณาจักรคุชชานเริ่มเสื่อมอำนาจ อาณาเขตด้านตะวันออกของอาณาจักรเริ่มสั่นคลอนจากการก่อตัวของ ราชอาณาจักรคุปตะ (Gupta) ส่วนอาณาเขตทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็เช่นกัน เริ่มมีปัญหากับการก่อตัวของ ราชอาณาจักรสัสสาเนี่ยน (Sassanian) แม้จะมีการเสียดินแดนบางส่วน ผู้เข้ามาครอบครองทั้งสองนี้ ต่างก็รับเอาอิทธิพลทางวัฒนธรรมของคุชชาน ดังจะเห็นได้จากเหรียญกษาปณ์รุ่นแรกๆ ของราชวงศ์คุปตะ (Gupta) และราชวงศ์สัสสาเนี่ยน (Sassanian) ล้วนจำลองแบบมาจากเหรียญกษาปณ์ทองคำของพระเจ้าขะนิสกะที่สองแทบทั้งสิ้น ราชวงศ์คุชชานแม้จะอ่อนแอ ดินแดนหดหายเล็กลง แต่ก็ยังมีกษัตริย์ปกครองต่อเนื่องมาอีกหลายพระองค์ พระเจ้าวาสิสขะ (Vasiska) พระเจ้าขะนิสกะที่สาม (Kanishka III) พระเจ้าวะสุ เดวะที่สอง (Vasu Deva II) พระเจ้าซาคะ (Shaka) ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากษัตริย์แห่งราชวงศ์คุชชานล้วนใช้รูปลักษณ์ของเหรียญกษาปณ์เป็นเครื่องมือเผยแพร่ ความมีอำนาจของกษัตริย์ผู้มีบารมี ดุจเทพเจ้าทั้งหลายที่ปรากฏด้านหลังของเหรียญเหล่านั้น ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในดินแดนอินเดียแห่งนี้ เพราะแต่โบราณกาล ล้วนใช้แต่เครื่องหมายในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เดิมทีแนวคิดนี้เป็นของเหล่ากษัตริย์ชาวกรีก กษัตริย์คุชชานเป็นผู้นำมาเผยแพร่และได้รับความนิยมจากราชวงศ์คุปตะ สัสสาเนียน และเพื่อนบ้านอื่นๆ ต่างได้ถือปฏิบัติและสืบทอดต่อเนื่องกันมาอีกนับพันปี (ขอบคุณข้อมูลเวปร้านเกจิน้อยครับ) ชมศึกษาร่วมกันครับ

วิธีการชำระเงิน

 

 

 

เพื่อความสะดวกรวดเร็ว

ให้แจ้งชำระเงินทางโทรศัพท์ เบอร์ 081-0555599

โดยส่ง sms แจ้ง  หรือโทรแจ้งก็ได้ 

Line ID : kiatok

 

บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาชุมแพ ออมทรัพย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาโลตัสชุมแพ ออมทรัพย์

หมวดหมู่สินค้า

ติดต่อเรา

081-0555599

ระบบสมาชิก

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านร้าน KAITOK 999 พระดี พระสวย พระบ้านๆ และพระเครื่องยอดนิยม
ร้าน KAITOK 999 พระดี พระสวย พระบ้านๆ และพระเครื่องยอดนิยม
ร้าน KAITOK 999 พระดี พระสวย พระเครื่องยอดนิยม ขายน้ำยามหามงคล ขายน้ำยาทำความสะอาดพระเครื่อง น้ำยาล้างทำความสะอาดเครื่องเงินเครื่องประดับ น้ำยาแต่งสีผิวพระเครื่อง รมดำ ผิวไฟ นวะ มันปู สอบถามโทร 081-0555599 Line ID : kaitok555599
เบอร์โทร : 081-0555599
อีเมล : kaitok55@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม